วันพฤหัสบดี, 8 มิถุนายน 2566

วัดอาน วัดศักดิ์สิทธิ์ มีเพียงพระประธาน ไม่มีพระจำพรรษา สาธุชนแก้บนเกือบทุกวัน

ประวัติ”หลวงพ่อวัดอาน”
 
ที่มาของคำว่า”บางแม่หม้าย”(ฉบับย่อ)
หลวงพ่อวัดอาน(จันทรังษี)
พระพุทธรูปที่เป็นหลักใจของคน”บางม้า”
เป็นที่เคารพกราบไหว้ของชาวสุพรรณทั่วไป
วัดที่ไม่มีสงฆ์จำพรรษา มีแต่ศรัทธามหาชนล้นวัด
วัดร้างในประเทศไทยมีประมาณเกือบ๖,๐๐๐วัด
แต่วัดที่”โด่งดังที่สุด”ในสยามคือวัดอาน
 
หลวงพ่อวัดอานดังแบบปากต่อปาก
บอกกล่าวเล่ากันไปจนโด่งดังคนรู้จักทั้งประเทศ
ศิลปิน,ดารา,ลิเกดังในไทยผู้ที่จะออกรถคันใหม่
หรือมีรถขับร้อยละเกินครึ่งในบางม้า
ต้องมีวัตถุมงคลหลวงพ่ออานติดรถ
หรือพรมน้ำมนต์หลวงพ่อวัดอานแทบทั้งสิ้น
ชาวบางปลาม้าแทบจะทุกหลังคาเรือน
ออกรถใหม่ต้องขับไปใช้น้ำมนต์ท่านปะพรม
(เอาน้ำมนต์จากวัดอื่นมาอธิษฐานที่หน้าหลวงพ่อ)
 
หลวงพ่อวัดอานเป็นพระพุทธรูปอายุประมาณ ๔๐๐ ปี
ปลายสมัยอู่ทองถึงสมัยอยุธยาตอนต้น
ด้วยชุมชนแห่งนี้เป็นชุมชนขนาดใหญ่มาแต่โบราณ
ไม่เคยมีประวัติว่ามีการอพยพไปไหน
ถือว่าเป็น”ไทยสยาม”ที่อยู่ตรงนี้มาแต่เดิม
เป็นชุมชนที่มีความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจมาก
ด้วยมีการขุดพบวัตถุโบราณที่มีราคาและที่มา
มีผู้คนอาศัยอยู่มากมาย มีวัดอยู่ใกล้เคียงกันถึง๗วัด
 
ปัจจุบันเรียกชุมชนแห่งนี้ว่าบ้าน”บางแม่หม้าย”
จากการสืบค้นประวัติที่มาของคำว่า”บางแม่หม้าย”
ของ สจ.เสมียน หงษ์โต (เมือง บางม้า)คนพื้นที่
เขียนลงในหนังสือ”บรรพชนคนบางแม่หม้าย”สรุปว่า
 
คำว่า”บางแม่หม้าย”ไม่ใช่เกิดขึ้นตามหนังสือนิทานย่านสุพรรณ
ที่ว่าเกิดจากเจ้าบ่าวยกขบวนขันหมากมาทางเรือ
เพื่อแต่งงานกับเจ้าสาวแต่ขบวนเรือล่มเจ้าบ่าวตายจึงเรียก”บางแม่หม้าย”
 
แท้จริงแล้ว”บางแม่หม้ายเกิดจาก”สามีถูกเกณฑ์ไปรบและตาย
ภรรยาเป็นหม้ายผัวตาย ไม่ยอมมีสามีใหม่
พากันไปถือศีลบวชชีที่โคกยายชี(มีรูปปั้น)
ที่ตรงนั้นเรียกว่าโคกยายชี ที่อยู่ของยายชีที่เป็นหม้าย
จากนั้นจึงเรียก”บางแม่หม้าย”ในกาลต่อมา
 
ส่วนชื่อ”วัดอาน”มาจากสถานที่แห่งนี้เป็นที่พัก
และอาบน้ำอาบท่าช้างม้าศึกสมัยอยุธยา
ได้ทิ้งอานช้างม้าที่ชำรุดใช้ไม่ได้
ไว้เป็นหลักฐานรวมทั้งประวัติวัดบริเวณแถวนี้
ล้วนเป็นวัดเก่าสมัยอยุธยา
 
หลวงพ่อวัดอาน ขวัญใจมหาชน
บนบาน ได้ผลสำเร็จทุกอย่าง
โดยเขียนไว้ในสมุดบันทึกในวิหารท่าน
ที่ฮือฮามากที่สุดคือปลายปี ๒๕๕๖
งานเลี้ยงเกษียณ นอภ.ประพันธ์ บุญคุ้ม
เวลาเย็นฝนฟ้าคะนองลงเม็ดงานใหญ่
ของชาวบางม้า
คนประมาณห้าพันคน ศิลปินบางปลาม้า ชาวสุพรรณมาหมด
ไวพจน์ เพชรสุพรรณ,ศรเพชร ศรสุพรรณ
เสรี รุ่งสว่าง รวมทั้ง.สดใส รุ่งโพธิ์ทอง
และอืนๆมากมายเพราะรัก นอภ.ประพันธ์
ฝนครึ้มหนัก ท่านหมดที่พึ่งจึงบอกกล่าวหลวงพ่อวัดอานไม่ให้ฝนตก
จบคำบอกเล่าท้องฟ้าสว่างใสไม่มีบรรยากาศของฝน
(อาจบังเอิญก็ได้แต่พอเหมาะ)
 
นายอำเภอท่านประกาศขอเป็นคนสุพรรณอย่างเต็มตัว
และซื้อบ้านตั้งรกรากอยู่บางปลาม้าจนบัดนี้
 
เรื่องที่คนมาบนบานและเห็นผลมากที่สุดมีดังนี้
 
๑.ปลอดภัยจากอุบัติเหตุ.
คงมาจากคำว่า”อาน”
อันหมายถึงที่นั่งและการเดินทาง
จึงมาถึงการใช้รถและการเดินทาง
(ใช้น้ำมนต์และวัตุมงคลกับรถของตน)
 
๒.ขอให้สำเร็จในกิจการงานตนเอง
ข้าราชการมากันมากเป็นพิเศษ
 
๓.ให้รอดพ้นจากทหารเกณฑ์
 
เมื่อประสบผลสำเร็จแล้วให้มาแก้บน
ด้วย”ขนมจีนและไข่ต้ม”เป็นลำดับแรก
นอกเหนือจากนี้แล้วแต่ผู้ศรัทธา
ที่น่าอัศจรรย์พันลึกพิกลจนพิศดาร
ที่นี่มีจิตอาสาบริการความสะดวก
 
แต่วัดไม่มีการรับบริจาคไม่มีการเรี่ยไรสบายหู
ไม่มีแม้กระทั้งดอกไม้ธูปเทียนขายให้
ต้องเตรียมมาเองหรือซื้อจากชาวบ้านด้านนอกวิหาร
เทศกาลไหว้พระหลวงพ่ออานเดือน๕
จะมีมหรสพภาพยนต์ดนตรีและลิเกดัง
เช่นไชยา มิตรชัย กุ้ง สุทธิราช.พรเทพ พรทวี
จ้างมาด้วยศรัทธาของมหาชนโดยแท้
 
การเดินทางถนนสายตลิ่งชัน-สุพรรณ
ขับไปจนก่อนถึงแยกเข้าอำเภอบางปลาม้า
เลี้ยวซ้ายตรงปั๊มตราดาวข้ามสะพานแม่น้ำสุพรรณ
ขับไปเจอทางแยกแล้วเลี้ยวซ้ายไปทางบางแม้หม้าย
ขับไปอีก๑๐ กม.วัดอานอยูตรงขวามือ
ตรงข้ามกับวัดบางแม่หม้าย..สาธุๆๆๆ
 
ภาพ หลวงพ่อวัดอาน(จันทรังสี)ชุดนี้ดีที่สุด
เพราะได้ลอกทองคำเปลวที่ปิดพระเนตรออก
จึงมองเห็นดวงตาของหลวงพ่อดั่งมีชีวิต
 
บทความ/ภาพ อ.ถนัด ยันต์ทอง ๒๓ พ.ค.๒๕๕๗